หลอดเลือดสมอง ประกอบด้วยหลอดเลือดแดง และ หลอดเลือดดำ ซึ่งทำหน้าที่รับส่งสารอาหาร ออกซิเจน และ ของเสีย จากสมอง หากหลอดเลือดสมองมีความผิดปกติที่ระบบหลอดเลือด ไม่ว่า แตก, ตีบ, หรือ ตัน หากผู้ป่วยที่เกิดภาวะผิดปกติเหล่านี้ไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที ผู้ป่วยสูงถึง 70% เกิดภาวะพิการ เช่น แขนขาอ่อนแรง ชาตัว เดินเซ ไปตลอดชีวิต และ ผู้ป่วยประมาณ 5% อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน หรือ stroke เป็นส่วนหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมองที่พบได้บ่อย ส่วนมากเกิดจากการอุดตันเฉียบพลันของหลอดเลือดแดง ส่งผลให้สมองขาดเลือดและตาย ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการ แขนขาอ่อนแรงครึ่ง ชาตัวครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง และ เดินเซ สำหรับประเทศไทยพบโรคหลอดเลือดสมองได้ 1.88 ราย ต่อ ประชาชน ช่วงอายุ 45-80 ปี 100 คน
โรงพยาบาลราชพฤกษ์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง จะจัดตั้งศูนย์โรคหลอดเลือดสมองขึ้น โดยให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ การดูแลในภาวะฉุกเฉิน เช่น การรักษาด้วยยาสลายลิ่มเลือด(ra-PA) การผ่าตัดสมอง การเฝ้าระวังภาวะเสริกซ้อนของโรคเลือดเลือดสมองแบบป่วยใน จนถึงการฟื้นฟูให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเต็มศักยภาพ
บริการของศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง
- ตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคโดยแพทย์
- ส่งตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ
- การวินิจฉัยทางรังสีวิทยา
- CT scan
- MRI scan
- Carotid duplex ultrasound
- การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค
- ยาสลายลิ่มเลือด
- ยาต้านเกร็ดเลือด
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- การผ่าตัด
- การเฝ้าระวังภาวะเทรกซ้อนแบบผู้ป่วยใน
- การฟื้นฟู ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับคนไข้เฉพาะบุคคล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฝึกยืน เดิน และการทำกิจกรรมต่างๆ
- ฝึกพูด
- ฝึกกลืน
- ฝึกการทรงตัว
- ระงับปวด
- ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ
อาการที่พบบ่อย
- อาการเบื้องต้นของผู้ที่มีภาวะโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน คือ แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก, ชาตัวครึ่งซีก, ปากเบี้ยว, หน้าเบี้ยว, พูดไม่ชัด, ลิ้นแข็ง, ตาพร่ามัวเห็นภาพซ้อน, เดินเซ, พูดไม่ได้ และ ผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะ ปวดศีรษะ ร่วมด้วย และส่วนมาก ผู้ป่วยมักมีอาการหลายๆอย่างร่วมกัน หากมีอาการแสดงเหล่าโดยเป็นกะทันหัน ควรรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ อย่างเร่งด่วน
กลุ่มเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองตีบ
- ผู้สูงอายุ, โรคความดันสูง, โรคเบาหวาน, และ สูบบุหรี่
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองตัน
- โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ภาวะลิ้นหัวใจติดเชื้อ
- โรคมะเร็งบางชนิด
- ผู้มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองแตก
- โรคความดันสูง
- โรคหลอดเลือดฝอยผิดปกติ เช่น ภาวะสะสมของ Amyloid
- โรคความผิดปกติเกี่ยวกับระบบแข็งตัวของเลือด
แนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง
- ภาวะเฉียบพลัน ภายใน 4.5 ชั่วโมงแรกหลังเกิดอาการ
- ผู้ป่วยกลุ่มนี้หากเข้ารับการรักษาและวินิจฉัยอย่างทันท่วงที และ ไม่มีความเสี่ยงกับภาวะเลือดออกง่าย ผู้ป่วยมีโอกาสได้รับการรักษาด้วยยาสลายลิ่มเลือด (rt-PA)
- ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบตันทุกราย ควรได้รับการป้องกัน โดยขึ้นกับโรคประจำตัวและสาเหตุของโรค เช่น
- ยาต้านเกร็ดเลือด
- ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ยาลดไขมัน
- กายภาพบำบัด และ ฟื้นฟู
การฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
ทีมงานเวชศาสตร์ฟื้นฟูซึ่งนำทีมโดยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด จะร่วมกันประเมินและวางแผนการรักษาภาวะต่างๆ ที่ยังมีความบกพร่องหลงเหลือหลังจากเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ภาวะที่พบได้บ่อยหลังเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
- แขนขาอ่อนแรง ส่งผลต่อการเดิน และการใช้ชีวิตประจำวัน ทีมนักกายภาพบำบัดจะทำการรักษาโดยการกระตุ้นกล้ามเนื้อ การขยับข้อ การฝึกเดิน และสอนการออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ภาวะบกพร่องทางภาษา ส่งผลกระทบต่อความเข้าใจของผู้ป่วยเองและการพูดสื่อสารออกมา ทีมนักกิจกรรมบำบัดสามารถจะช่วยฝึกผู้ป่วยโดยใช้เทคนิคเฉพาะตามความบกพร่องของผู้ป่วยเป็นรายๆไป
- การกลืนอาหารลำบาก ส่งผลกระทบถึงภาวะโภชนาการ และอาจนำไปสู่การสำลักอาหารทำให้อุดกั้นทางเดินหายใจ หรือเกิดภาวะปอดอักเสบ การบำบัดสามารถทำได้หลายวิธีเช่น การออกกำลังกายกล้ามเนื้อการกลืน และการปรับเปลี่ยนชนิดอาหาร
- ภาวะเกร็งกล้ามเนื้อ ส่งผลให้การเดินหรือเคลื่อนไหวร่างกายลำบาก บางครั้งทำให้เกิดความปวดตามมา สามารถรักษาได้โดยการใช้ยา การออกกำลังกายแบบยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และการใช้เครื่องมือทางกายภาพ