โรคไข้เลือดออก รู้จักป้องกันก่อนสายเกินแก้

โรคไข้เลือดออก มีสถิติผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้ว (2561) ในช่วงเวลาเดียวกันมากถึง 2 เท่า พบได้มากที่สุดในช่วงอายุ 5-14 ปี รองลงมาคือ 15-34 ปี

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยที่เชื้อจะอยู่ในร่างกายคน 5-8 วันหลังจากโดนกัด อาการมีตั้งแต่เล็กน้อย ไปถึงขั้นรุนแรงจนเสียชีวิต ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อและภาวะภูมิคุ้มกันในขณะนั้น

ในปัจจุบันไม่มียารักษาเฉพาะทางของโรคไข้เลือดออก พวกเราจึงควรรู้วิธีป้องกันตัวเองให้ห่างจากโรค โดยมีอยู่ 3 วิธีง่ายๆ

1.) หากมีอาการน่าสงสัยควรรีบพบแพทย์

หากท่านหรือบุคคลใกล้ตัวมีอาการดังนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน

  • ไข้สูงเฉียบพลัน
  • คลื่นไส้ เบื่ออาหาร หน้าแดง ปวดท้อง
  • มีจุดสีแดงขึ้นตามแขน ขา ลำตัว มีเลือดออกตามไรฟันหรือมีเลือดกำเดา
  • ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ

2.) ป้องกันยุงกัด

อาจจะทาโลชั่น หรือจุดยากันยุง รวมไปถึงการติดมุ้งลวดให้เรียบร้อย หากในห้องอากาศไม่ร้อนควรแต่งตัวให้มิดชิด โดยปกติยุงลายมักจะออกหากินในช่วงใกล้ค่ำ

3.) ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

ทิ้งขยะที่น้ำสามารถขังได้และใส่ทรายกำจัดลูกน้ำในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เก็บสิ่งของในบ้านให้เป็นระเบียบ และสามารถปล่อยปลาที่กินลูกน้ำ เช่น ปลาหางนกยูง ในภาชนะที่มีน้ำขังขนาดใหญ่
.
โรคนี้มีอันตรายถึงชีวิต และสามารถเป็นกันได้ทุกเพศทุกวัยไม่เว้นแม้แต่คนที่ร่างกายแข็งแรง ดังนั้นจึงควรรักษาตัวเองให้ห่างจากยุงลายและเตรียมร้อมรับมือกับฤดูฝน ด้วยความหวังดีจากเรา

🌼 โรงพยาบาลราชพฤกษ์

☎️สอบถามข้อมูลบริการทางการแพทโทร. 043-333555

ติดตามพวกเราทางไลน์
จะได้ไม่พลาดความรู้ด้านสุขภาพ/ข่าวสารดีๆ

LINE ID: @rphline (มีตัวแอดด้วยนะครับ)
หรือคลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/%40rphline