เมื่อทำงาน จนปวดตัว

สัปดาห์นี้เราจะมาคุยกันเรื่อง ทำงาน…จนปวดตัวกันบ้างนะคะ ด้วยสังคมปัจจุบัน การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วทันใจ เพียงแค่ปลายนิ้ว ใช่ค่ะ เพราะแค่ใช้แค่ปลายนิ้ว อวัยวะอื่น ๆ ของเราเลยแทบไม่ได้กระดุกกระดิกกันเลยไงคะ ทำให้งานทุกวันนี้ของเราส่วนใหญ่ จะเป็นการนั่งโต๊ะ แม้จะสะดวกสบาย แต่ก็นำมาด้วยภาวะที่เราเรียกว่า “กลุ่มอาการของชาวออฟฟิศ หรือ Office Syndrome นะค่ะ กลุ่มอาการที่ว่า มักเกิดจากการนั่งทำงานที่

  • ผิดที่ท่า : หลังค่อม, ก้ม หรือเงยมากเกินไป
  • ผิดที่โต๊ะ หรือผิดที่เก้าอี้
  • ผิดที่นั่งนานไปหน่อย : คือค้างอยู่ท่าเดิม ๆ ในระยะเวลานาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ

อาการของออฟฟิศซินโดรมมักไม่ได้มาแค่อย่างเดียว แต่มักมากันเป็นแพ็กเกจเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ เอ็นอักเสบ ทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ไหล่ตึง ไหล่ติด ปวดบ่า ปวดแขน ปวดศอก ปวดข้อมือ เจ็บบริเวณฐานนิ้วโป้ง นิ้วล็อก ในระยะแรก ๆ อาการอาจจะมา ๆ ไป ๆ พักการใช้งาน ทานยา หาหมอ อาจจะดีขึ้นได้ แต่ถ้าปล่อยไว้เรื้อรัง ไม่ปรับท่า ไม่เปลี่ยนพฤติกรรม อาการอาจรุนแรง เกิดอาการชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้

หากเริ่มมีอาการอย่างที่กล่าวมา ควรปรับเปลี่ยนท่า แก้ที่สาเหตุ และปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาและคำแนะนำ อาจต้องทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย

การป้องกันออฟฟิศซินโดรมได้แก่ การ “ปรับ” ค่ะ

  • ปรับสถานที่ ไม่ว่าความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ ความห่างของจอคอมพิวเตอร์ ควรอยู่ในระดับสายตา ไม่ก้มไม่เงยจนเกินไปการพิมพ์งาน คีย์บอร์ด หรือเมาส์ ควรอยู่ในระดับข้อศอก
  • ปรับท่า: นั่งหลังตรง ชิดขอบด้านในของเก้าอี้ เปลี่ยนท่าการทำงานทุก 20 นาที
  • กะพริบตาบ่อย ๆ ละสายตาออกจากคอมพิวเตอร์เป็นระยะ
  • ยืดเหยียดแขน เหยียดกล้ามเนื้อ ทุก 1 ชั่วโมง เดินไปคุยกับโต๊ะข้าง ๆ ก็ได้ค่ะ บอกเจ้านายว่า เรามาเปลี่ยนท่า แต่ถ้าเปลี่ยนบ่อยเปลี่ยนนาน ระวังเจ้านายจะให้เปลี่ยนงานนะคะ
  • นอกจากนี้ เพื่อป้องกันภาวะอื่น ๆ ขอฝากชาวออฟฟิศ ให้รับประทานอาหารให้ตรงเวลา และครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ตรวจสุขภาพประจำปี และอย่ากลั้นปัสสาวะกันด้วยนะคะ เราจะได้นั่งสบาย ๆ ไม่เจ็บไม่ปวดในออฟฟิศได้จนแก่เฒ่าค่ะ สวัสดีค่ะ